พพ_จับมือการเคหะแห่งชาติขับเคลื่อนมาตรฐาน_BEC
นายยงยุทธ์ สวัสดิสวนีย์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และนายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการบูรณาการเครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน ในการสนับสนุนการออกแบบอาคารที่อยู่อาศัยให้สอดรับกับกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดอาคารและมาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน หรือ Building Energy Code (BEC) ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2562 กับอาคารก่อสร้างใหม่ หรือดัดแปลง 9 ประเภท ที่มีขนาดตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป
ประกอบด้วย 1) สำนักงาน 2) โรงแรม 3) โรงพยาบาล 4) ศูนย์การค้า 5) โรงมหรสพ 6) สถานบริการ 7) อาคารชุมชนคน 8) อาคารชุด และ 9) สถานศึกษา
รองอธิบดี พพ. กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นที่จะแสดงเจตจำนงที่หน่วยงานรัฐจะร่วมส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆ ได้ดำเนินการต่อไป
ในส่วนของ พพ. ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการบังคับใช้กฎกระทรวงดังกล่าว ด้วยการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และส่งเสริมในเรื่องการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 มีการเตรียมความพร้อมบุคลากรผู้ออกแบบอาคาร สถาปนิก วิศวกร เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่อนุญาตการก่อสร้าง รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจในนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของภาครัฐ
สำหรับมาตรฐาน BEC ในปี 2563 ได้กำหนดเป้าหมายบังคับใช้กับอาคารที่มีขนาดตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป และในปี 2564 บังคับใช้กับอาคารที่มีขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งมาตรการบังคับใช้นี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการของ พพ. ที่จะดำเนินการควบคู่กับมาตรการจูงใจสนับสนุนทางการเงิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2558-2579 (EEP 2015) ในการลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ในปี 2579 โดย BEC เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะมีส่วนทำให้เกิดการประหยัดพลังงานในอาคารได้เป็นอย่างดี